Back
สัญญาว่าจ้างสถาปนิกออกแบบแปลน
Size: 45.6 kBCreated: 2563-10-09 06:42Downloaded: 2 920x สัญญาว่าจ้างสถาปนิกออกแบบแปลน
โครงการ……………………
หนังสือสัญญาฉบับนี้ทำขึ้นเมื่อวันที่ ….……………………….………ณ เลขที่…………….. ..….……………………………………………ระหว่าง….………………………….……………………
โดย….………………………….………………………อยู่ที่….………………………….………………ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า ผู้ว่าจ้าง ฝ่ายหนึ่ง กับ………….………………………….…………………โดย….………………………….………………………อยู่ที่….………………………….………………
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า สถาปนิก อีกฝ่ายหนึ่ง คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ผู้ว่าจ้างตกลงว่าจ้างสถาปนิก จัดทำการวางฝังออกแบบสถาปัตยกรรมก่อสร้างอาคาร… ….…………………………..….………………………ในโครงการ….………………………….………ซึ่งจะปลูกสร้างบนที่ดินโฉนดเลขที่………………ตำบล….………………………อำเภอ….……………จังหวัด….………………………โดยกำหนดดำเนินงานตามขั้นตอนของแผนงานในการออกแบบดังนี้
-
จัดการวางเค้าโครงการออกแบบร่า
-
แบบร่าง การวางผังบริเวณ
-
แบบร่าง ตัวอาคาร ประกอบด้วยผังรูปด้าน รูปตัด
-
อื่น ๆ
ทั้งนี้ เพื่อเสนอให้ผู้ว่าจ้างพิจารณาอนุมัติเป็นชอบหรือขอแก้ไขเพิ่มเติมเมื่อผู้ว่าจ้างอนุมัติแล้ว สถาปนิกจะต้องใช้ข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้รับอนุมัติจากการออกแบบร่างดังกล่าวข้างต้นดำเนินการออกแบบขั้นสุดท้ายอันประกอบด้วย
1) ผังบริเวณ ที่ได้จัดการแก้ไขตามที่ได้รับอนุมัติ
-
แบบอาคาร ที่ได้แสดงผังรูปด้านรูปตัด ที่ได้พัฒนาแล้ว โดยความเห็นชอบของผู้ว่าจ้างอนุมัติไว้
-
จัดทำรายละเอียดของวัสดุและอุปกรณ์ ที่จะใช้ในโครงการงานก่อสร้างตามสัญญาพร้อมเอกสารต่าง ๆ
-
คำนวณการประมาณราคาการก่อสร้าง เมื่อผู้ว่าจ้างต้องการ
-
กำหนดระยะเวลาการทำงานแต่ละขั้นตอนให้ผู้ว่าจ้างทราบ
-
จัดทำรายละเอียดการก่อสร้างรายละเอียดประกอบแบบ
อันประกอบด้วย แบบแสดงผังถนน และสาธารณูปโภค ภายนอกอาคารแบบผังทุกชั้น ผังแสดงแบบรูปด้าน 4 รูป แบบแสดงรูปตัดและอื่น ๆ ตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการ
ข้อ 2. สถาปนิกจะต้องดำเนินการส่งมอบเป็นแบบพิมพ์เขียว จำนวน…………ชุด พร้อมเอกสารประกอบแบบจำนวนเท่ากันให้แก่ผู้ว่าจ้าง พร้อมทั้งเอกสารที่จะยื่นขออนุญาตจากทางราชการได้หากแบบก่อสร้างได้รับการทักท้วงจากทางหน่วยงานราชการ ให้แก้ไขเพิ่มเติมอย่างใด สถาปนิกก็จะต้องยอมแก้ไขให้ถูกต้องสมบูรณ์ จนกว่าแบบก่อสร้างจะได้รับอนุมัติ
ข้อ 3. แม้ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างได้อนุมัติให้สถาปนิกเขียนแบบก่อสร้างแล้วก็ตาม หากผู้ว่าจ้างต้องการจะแก้ไขแบบร่างเดิม ให้ส่วนที่เป็นข้อสาระสำคัญหรือแก้ไขใหม่ผิดไปจากเดิมมาก สถาปนิกก็จะจัดการแก้ไขให้โดยผู้ว่าจ้างจะต้องจ่ายเงินเพิ่มตามสัดส่วนของงานให้สถาปนิกที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม
ข้อ 4. สถาปนิกให้สัญญาว่าจะทำงานตามที่ว่าจ้างตามสัญญาให้แล้วเสร็จ ภายในกำหนด……วัน/เดือน โดยจะเริ่มลงมือทำงานตั้งแต่วันที่…………………………….จนถึงวันที่…………………….และในกรณีที่มีการจ้างงานเพิ่มหรือการพิจารณาอนุมัติของผู้ว่าจ้างล่าช้าก็จะขยายเวลาของการส่งมอบงานออกไปตามความเป็นจริงแห่งผลงานที่ต้องทำขึ้นนั้น
ข้อ 5. ผู้ว่าจ้างตกลงให้ค่าจ้างแก่สถาปนิก เป็นการตอบแทนในการให้บริการออกแบบก่อสร้างตามสัญญารวมเป็นจำนวนเงิน……………..บาท (…………………………………….)โดยแบ่งชำระเป็นงวด ๆ ดังต่อไปนี้
งวดแรก จะชำระให้ 10% ของค่าจ้างทั้งหมดเป็นเงิน ………………..บาท (…………………………………………..) ในวันทำสัญญานี้ซึ่งสถาปนิกได้รับไว้แล้ว
งวดที่ 2 จะชำระให้อีก 30% ของค่าจ้างเมื่อแบบร่างได้ส่งมอบและได้รับอนุมัติจากผู้ว่าจ้างให้เขียนแบบก่อสร้างเป็นเงิน ………………..บาท (…………………………….………………………..)
งวดที่ 3 จะชำระให้อีก 30% ของค่าจ้างเมื่อได้เขียนแบบก่อสร้างเรียบร้อย และยื่นขออนุญาตต่อทางหน่วยงานของทางราชการเป็นเงิน ………………..บาท (……………….………………………..)
งวดที่ 4 จะชำระให้อีก 20% ของค่าจ้างเมื่อทางหน่วยงานของทางราชการอนุมัติให้ทำการก่อสร้างได้เป็นเงิน ………………..บาท (…………………………………………..)
งวดสุดท้าย จะชำระให้ 10% ของค่าจ้างเมื่อ…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………เป็นจำนวนเงิน ………………..บาท (………………….………………………..)
ข้อ 6. เงื่อนไขข้อตกลงอื่น ๆ ...………………………………….…… …………………………….…………………………………....………………………………….…… …………………………….…………………………………....………………………………….…… …………………………….………………………………….
...………………………………….…… …………………………….………………………………….ขอบข่ายของงานที่ไม่ครอบคลุมในค่าบริการ ดังรายละเอียดปรากฏตามเอกสารแนบท้ายสัญญานี้
ข้อ 7. คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่างานแบบ และรายละเอียดของแบบก่อสร้างงานรายนี้ ให้เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมของผู้ว่าจ้าง และสถาปนิก ซึ่งจะใช้สำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะเท่านั้น โดยจะนำไปใช้กับงานรายอื่นให้กับบุคคลภายนอกไม่ได้
ข้อ 8. การบอกเลิกสัญญาผู้ว่าจ้างจะบอกเลิกสัญญา จะต้องแจ้งเป็นหนังสือให้สถาปนิกทราบและตกลงจะชำระเงินค่าจ้างให้ตามสัดส่วนของงานที่ได้ทำไปแล้วเสร็จในกรณีที่ผู้ว่าจ้างผิดสัญญาไม่ชำระค่าจ้าง สถาปนิกมีสิทธิบอกเลิกสัญญานี้ได้โดยต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ว่าจ้างทราบ และผู้ว่าจ้างจะต้องชำระเงินค่าจ้างให้ตามสัดส่วนของงานที่สถาปนิกได้ทำไปแล้วเสร็จ
ข้อ 9. ในกรณีที่สถาปนิก ทำงานไม่แล้วเสร็จ แบบงานบกพร่องและไม่รับจัดการแก้ไขให้ถูกต้องหลีกเลี่ยงบิดพลิ้ว ผู้ว่าจ้างมีสิทธิจ้างบุคคลอื่นมาทำงานแทน โดยสถาปนิกจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามจำนวนเงินที่ผู้ว่าจ้างเสียไป
ข้อ 10. ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นแก่งานก่อสร้างที่ว่าจ้างนี้ เกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากสถาปนิกทำงานไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผู้ว่าจ้างจะมีสิทธิที่จะให้สถาปนิกทำการแก้ไขเสียใหม่ โดยสถาปนิกจะเรียกค่าจ้างเพิ่มในงานส่วนนี้ไม่ได้และหากสถาปนิกไม่สามารถแก้ไขได้ ผู้ว่าจ้างมีสิทธิเรียกค่าเสียหายทั้งหมดหรือบางส่วนที่เกิดขึ้นได้จากงานบริการนี้ในวงเงินค่าจ้างที่สถาปนิกจะได้รับเท่านั้น
สัญญานี้ได้ทำขึ้นเป็น……………ฉบับ มีข้อความตรงกันถูกต้องตามความประสงค์ของคู่สัญญาทั้งสอง ซึ่งได้อ่านและเข้าใจข้อความดีโดยตลอดแล้ว เพื่อเป็นหลักฐานจึงได้ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญต่อหน้าพยาน
ลงชื่อ………………………………….ผู้ว่าจ้าง
(………………………………….)
ลงชื่อ………………………………….สถาปนิก
(………………………………….)
ลงชื่อ………………………………….พยาน
(………………………………….)
ลงชื่อ………………………………….พยาน
(………………………………….)